ปรับเพิ่มกำไรปี 66 เนื่องจาก Backlog หนุน
รายงานขาดทุน 4Q65 ที่ 12 ลบ. โดยผลประกอบการแย่กว่าที่เราคาดไว้ โดยพลิกจากกำไรใน 3Q65 และ 4Q64
คาดผลประกอบการธรุกิจโรงพยาบาลจะถึงจุดคุ้มทุนในปี 66
ปรับเพิ่มประมาณการปี 66 เนื่องจากมี Backlog พร้อมส่งมอบ 1.39 พันลบ.
เพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 5.87 บาท
ประเด็นสำคัญในการลงทุน :
รายงานขาดทุน 4Q65 ที่ 12 ลบ. โดยผลประกอบการแย่กว่าที่เราคาดไว้ โดยพลิกจากกำไรใน 3Q65 และ 4Q64 : งวด 4Q65 บริษัทมีรายได้ 230 ลบ. หดตัว 49%QoQ และหดตัว 32%YoY เนื่องจากในไตรมาสนี้มีการส่งมอบเครื่องฉายรังสีเพียง 1 เครื่องมูลค่า 140 ลบ.ซึ่งต่ำกว่า 3Q65 แต่รายได้จากการบริการเติบโต 8%QoQ จากไตรมาสก่อนสู่ 96.1 ลบ. ตามจำนวนเครื่องที่ทยอยหมดประกัน ขณะที่รายได้จากโรงพยาบาลอ่อนตัวลงเล็กน้อยสู่ 25.5 ลบ. ด้านอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลงจาก 28.5% สู่ 6.8% เนื่องจากมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 26 ลบ. ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวขึ้น 46%QoQ จาก 19.0 ลบ.สู่ 27.7 ลบ. ซึ่งเป็นปัจจัยฤดูกาลที่ปลายปีจะมีค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น หากคิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้ปรับตัวขึ้นจาก 4.2% สู่ 12.0% ทั้งนี้ บริษัทรายงานกำไรปี 65 ที่ 133 ลบ. หดตัว 68%YoY ต่ำกว่าที่เราคาดเนื่องจากส่งมอบเครื่องฉายรังสีล่าช้าและมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลียน 4Q65 กดดัน
คาดผลประกอบการธรุกิจโรงพยาบาลจะถึงจุดคุ้มทุนในปี 66 : ปี 65 ธุรกิจโรงพยาบาลยังมีผลขาดทุน 5.3 ลบ. ทรงตัวใกล้เคียงปี 64 แต่รายได้เติบโต 31%YoY มาอยู่ที่ 98.1 ลบ. เนื่องจากบริษัทได้ขยายบริการต่อเนื่อง อาทิรังสี ฉีดคีโม และเครื่องฟอกไตหนุนให้รายได้เติบโต โดยในปี 66 เราคาดว่าจะสามารถสร้างกำไรได้หลังนำเงินจากการเพิ่มทุนไปชำระคืนเงินกู้ ทั้งนี้ เราคาดว่าธุรกิจโรงพยาบาลจะมีกำไรปี 66 ราว 5-10 ลบ.
ปรับเพิ่มประมาณการปี 66 เนื่องจากมี Backlog พร้อมส่งมอบ 1.39 พันลบ. : เราปรับเพิ่มประมาณการรายได้ปี 66 ขึ้นจาก 1.63 พันลบ. สู่ 1.83 พันลบ. เพิ่มขึ้น 12%YoY เนื่องจากบริษัทมี Backlog ณ วันที่ 31 ธ.ค. 65 ราว 1,387 ลบ. ซึ่งคาดว่าจะส่งมอบทั้งหมดในปี 66 นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่อีกราว 700-800 ลบ. คาดว่าบริษัทจะได้งานราว 400-500 ลบ. โดยงานใหม่ที่ประมูลได้จะเริ่มส่งมอบในปี 67 เนื่องจากใช้เวลาส่งมอบราว 270 วันหลังได้ลงนาม และคาดว่าจะมีรายได้จากการบริการราว 340 ลบ. ซึ่งทรงตัวจากปี 65 ขณะที่เราคงสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นที่ 20.2% และปรับกำไรสุทธิปี 66 ขึ้นจาก 202 ลบ.สู่ 219 ลบ. เติบโต64%YoY
เพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 5.87 บาท : เราประเมินมูลค่าด้วยวิธี SOTP ได้ราคาเหมาะสมธุรกิจติดตั้งเครื่องฉายรังสีที่ 5.44 บาท โดยปรับใช้ P/E ratio เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี – 0.5S.D. ซึ่งลดลงจาก 16 เท่าเหลือ 13 เท่า และประเมินราคาเหมาะสมโรงพยาบาลมะเร็งอีก 0.43 บาท/หุ้น (อิง PBV 1 เท่าซึ่งเป็นไปตามหลักระมัดระวัง บริษัทถือหุ้นโรงพยาบาลฯ 74%) ได้ราคาเหมาะสม 5.87 บาท โดยราคาเหมาะสมที่คำนวณได้ใช้จำนวนหุ้น 600.7 ล้านหุ้น เราปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” เนื่องจากผลประกอบการปี 66 จะกลับมาเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
Analyst Nuttawut Wongyaowarak
02 672 5805 nuttawut@globlex.co.th
เรียบเรียง นายศักดิ์ชาย งอกงาม
อีเมล์. reporter@efinancethai.com