Investor Relations

Share :

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : BIZ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 5.60 บาท

ผลประกอบการ 4Q63 ตามคาด รอเร่งตัวปี 2564

กำไรสุทธิ 4Q63 เร่งตัวขึ้น แต่ไม่เพียงพอที่จะชดเชยการทรุดตัวใน 9M63
  BIZ รายงานกำไรสุทธิ 4Q63 ที่ 23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 299% QoQ และ 11% YoY ได้แรงหนุนจากยอดขายอุปกรณ์การแพทย์ที่เกี่ยวกับโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น 158% QoQ และ 106% YoY อยู่ที่ 285 ล้านบาท จากการส่งมอบงานให้กับหน่วยงานภาครัฐได้มากขึ้น ส่วนรายได้จากงานบริการซ่อมบำรุงอุปกรณ์อยู่ที่ 48 ล้านบาท ลดลง 5% QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล แต่เติบโต 13% YoY ตามยอดขายเครื่องฉายรังสีและอุปกรณ์การแพทย์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (ทำให้รายได้จากการซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้นตามโดยปริยาย)

  ขณะที่ รายได้จากธุรกิจโรงพยาบาลรักษาโรคมะเร็งผ่านบริษัท แคนเซอร์อลิอันส์ จำกัด เร่งตัวขึ้น 27% QoQ และ 434% YoY อยู่ที่ 12 ล้านบาท จากการเปิดรับผู้ป่วยใหม่ได้เพิ่มขึ้นตามการคลายล็อกดาวน์ ด้านอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 21.9% จาก 17.9% ใน 3Q63 ตามการรับรู้รายได้งานขายที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงที่เพิ่มขึ้น แต่ลดลงจาก 24.5% ใน 4Q62 เพราะอัตรากำไรขั้นต้นงานบริการบางส่วนที่ลดลง ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารยังควบคุมได้ดี โดยคิดเป็น 5.7% ของรายได้รวม จาก 16.5% ใน 3Q63 และ 11.2% ใน 4Q62

  แต่เพราะมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 29 ล้านบาท จึงทำให้อัตรากำไรสุทธิลดลงเหลือ 6.8% จาก 7.5% ใน 3Q63 และ 11.2% ใน 4Q62 ถ้าหักออก อัตรากำไรจากการดำเนินงานปกติจะอยู่ที่ 13.2% เพิ่มขึ้นจาก -5.7% ใน 3Q63 และ 7.1% ใน 4Q62 โดยภาพรวม ผลประกอบการ 4Q63 ที่ออกมา ถือว่าสะท้อนภาพการฟื้นตัวของ BIZ ได้อย่างชัดเจน

  กำไรสุทธิทั้งปี 2563 อยู่ที่ 44 ล้านบาท ลดลง 51% YoY จากกำไรสุทธิช่วง 2Q-3Q63 ที่ทรุดตัวหนัก เพราะผลจากสถานการณ์ COVID-19 จึงทำให้ BIZ ไม่สามารถส่งมอบเครื่องฉายรังสีและอุปกรณ์การแพทย์ได้ตามกำหนดเวลา รวมถึงโครงการจัดตั้งศูนย์รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอนของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 963 ล้านบาท มีความล่าช้าในการทดสอบระบบจากผู้เชี่ยวชาญประเทศ จึงทำให้ BIZ ต้องแบกรับต้นทุนในการดำเนินงานและต้นทุนทางการเงินที่ไม่สอดคล้องกับการรับรู้รายได้

แนวโน้มผลประกอบการจะเร่งตัวตั้งแต่ 1Q64 แนะนำ “ซื้อ”
  คาดกำไรปกติ 1Q64 จะโตทั้ง QoQ และ YoY โดยอ้างอิงข้อมูลจาก Opportunity Day เมื่อ 18 มี.ค. 64 บริษัทมี Backlog อยู่ที่ 2,394 ล้านบาท เป็นส่วนงานโครงการอนุภาคโปรตอนของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 963 ล้านบาท และโครงการอื่นอีก 7 โครงการรวมมูลค่า 1,431 ล้านบาท ซึ่งผู้บริหารคาดว่าจะมีการรับรู้รายได้มากกว่า 4Q63 และ 1Q63 เมื่อผนวกกับฐานปีก่อนที่ต่ำมากจากผลของ COVID-19 จึงเป็นไปได้สูงที่จะเห็นกำไรปกติ(ไม่รวมกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน) เติบโตแบบ YoY ทุกไตรมาส โดยคาดว่าผลประกอบการจะทำสถิติสูงสุดใหม่ใน 3Q64 จากการรับรู้รายได้งานโครงการอนุภาคโปรตรอนฯ

   เรายังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2564 ที่ 185 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 318% YoY โดยหลักมาจากการรับรู้รายได้หลายโครงการใหญ่ที่เลื่อนจากปีก่อนมารับรู้ในปีนี้ และธุรกิจโรงพยาบาลที่ใกล้ถึงจุดคุ้มทุนมากขึ้น เรายังคงราคาเหมาะสมสิ้นปี 2564 ที่ 5.60 บาท อิง PER Multiplier ที่ 15 เท่า แนะนำ “ซื้อ”

  ความเสี่ยง การชะลอโครงการลงทุนด้านสาธารณสุขของหน่วยงานภาครัฐ, การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด, และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

เรียบเรียง ชุติมา มุสิกะเจริญ
อีเมล์. reporter@efinancethai.com

พระนครซอฟต์

Join our newsletter​

Get the lastest news to keep you at the Business Alignment.

Subscription Form