คาดหุ้นไปได้อีกไกล-ปันผลสูงเยี่ยม 9.2%
ธุรกิจหลักเป็นผู้จำหน่ายและติดตั้งชุดเครื่องมือรักษามะเร็ง บริษัทดำเนินธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายและติดตั้งชุดเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยวิธีรังสีรักษา (Radiotherapy) โดยนำเข้าผลิตภัณฑ์จากบริษัทผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ และเทคโนโลยีด้านการรักษาโรคมะเร็งระดับชั้นนำของโลก รวมทั้งให้บริการซ่อมบำรุงรักษาชุดเครื่องมือทางการแพทย์ดังกล่าว (Maintenance Service)
กำไร 1Q64 เป็น 1.8 เท่าของตลอดทั้งปี 63 แล้ว กำไรสุทธิ 1Q64 เป็น 82 ล้านบาท คิดเป็น 1.8 เท่าของกำไรตลอดปี 63 ที่ 44 ล้านบาท และคิดเป็นการเติบโตก้าวกระโดดเทียบกับ y-o-y ที่เพียง 15 ล้านบาทถึง 435% สาเหตุหลักคือ 1) รายได้จากการขายเพิ่ม 112% y-o-y เป็น 547 ล้านบาท เพราะเลื่อนการส่งมอบเครื่องฉายรังสีให้กับโรงพยาบาลจากปีก่อนมาปีนี้ และ2) อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเป็น 21.7% จากปีก่อนที่ 13.4% ผลพวงจากการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งถือว่าฐานกำไรปี 63อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าปกติซึ่งจะอยู่ที่ระดับ 80-90 ล้านบาทต่อปีโดยปี 63 ได้รับผลลบจากโรคโควิด-19
มีคำสั่งซื้อในมือ (Backlog) ที่สูง ล่าสุดเพิ่งจะขายเครื่องฉายรังสีมูลค่ากว่า 225 ลบ. ให้หน่วยงานโรงพยาบาลภาครัฐ 2 แห่ง ได้สำเร็จ ยังผลให้คำสั่งซื้อในมือสูงเป็น 2.2 พันล้านบาท แบ่งเป็นโครงการส่งมอบเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งให้กับโรงพยาบาล และโครงการจัดตั้งศูนย์รักษาผู้ป่วยโรงมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอน Proton Project (KCHM)นอกจากนี้ยังสามารถรับรู้รายได้จาก Backlog ได้เร็ว บริษัทให้แนวทางว่าปีนี้จะอยู่ที่สัดส่วน 80-90% จากทั้งหมดและผลการดำเนินงานในช่วง 2H64 ก็จะยังแข็งแกร่งอยู่มาก
โรงพยาบาล แคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา เริ่มมีกำไรแล้ว สำหรับโรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็ง แคนเซอร์อลิอันซ์ศรีราชา จังหวัดชลบุรี Cancer Alliance Hospital (CAH) ที่บริษัทฯ ถือหุ้น 65% ในปีนี้จะมีการทำการตลาดในเชิงรุกมากขึ้น หลังจากเข้าร่วมโครงการภาครัฐ ผู้ถือบัตรทอง 30 บาท รักษาได้ทุกที่ทั่วประเทศ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1มกราคม 2564 ที่ผ่านมา คาดว่าจะทำให้มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว ทั้งนี้ในงวด 1Q64 ที่ผ่านมา เริ่มให้กำไรเข้ามายังบริษัท 1.9 ล้านบาท คาดว่าในอนาคตผลตอบแทนกำไรจากโรงพยาบาลแห่งนี้จะทยอยปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ
คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 323 ล้านบาท สูงขึ้น 628% y-o-y และเทียบกับปีปกติจะอยู่ที่เพียงระดับ 80-90 ล้านบาทต่อปีด้วยเหตุผลเดียวกับกำไรในงวด 1Q64 ที่เติบโตดีมาก แต่รายการที่โดดเด่นปีนี้คือรายได้เป็น 2.3 พันล้านบาท โต 205% y-o-y สอดรับกับรายได้ที่เลื่อนมาจากปี 63 มารับรู้มากใน 1Q64 อีกทั้งBacklog ที่สูง ก็จะมารับรู้ปีนี้ได้เลย 80-90% จากทั้งหมด แม้ปีนี้จะยังมีโรคระบาดโควิด-19 แต่บริษัทมีประสบการณ์จากปีที่แล้ว ปีนี้จึงจะรับมือได้ดีขึ้น
โรคมะเร็งที่รุนแรง ทำให้ความต้องการใช้เครื่องมือแพทย์เพื่อรักษาอีกมาก โดยในประเทศไทย โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทยมาโดยตลอด และมีแนวโน้มที่อัตราป่วยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 42 เป็นต้นมา ถ้าไม่นับอุบัติเหตุ โรคมะเร็งเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตมากที่สุด ข้อมูลสถาบันมะเร็งแห่งชาติคือ ปัจจุบันคนไทยเสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 221 ศพ หรือคิดเป็น 80,665 ศพต่อปีและมีผู้ป่วยโรครายใหม่เฉลี่ยวันละ 336ราย หรือปีละ 122,757 ราย (นสพ.แนวหน้า 21 พ.ค.64)
แนะนำ ซื้อ เพราะราคาหุ้นยังมี Upside มาก และปันผลได้สูงเยี่ยม คาดว่าจากระดับ P/E และ P/BV ปี 63 ที่64.1 และ 4.6 เท่า จะลดลงอย่างรวดเร็วเหลือเพียง 8.7 และ 3.2 เท่า ณ สิ้นปี 64 กำหนด Forward P/E ปี 64 ไว้ที่13.0 เท่า จะได้ราคาพื้นฐานที่ 10.50 บาท ราคาปิดมีส่วนเพิ่ม (Upside) ได้อีกราว 49% และด้วยอัตราการจ่ายปันผลที่ 80% คาดว่าอัตราผลตอบแทนปันผลปีนี้จะสูงเป็น 9.2% ฐานะการเงินดีณ 1Q64 มีอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนเพียง 0.3 เท่า ปัจจุบันบริษัทยังอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนอีกหลายโครงการเพื่อเสริมสร้างการเติบโตต่อไปในอนาคต ส่วนความเสี่ยงคือ การประมูลงานในอนาคตได้ต่ำกว่าที่คาดไว้
นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : sombata@th.dbs.com
เรียบเรียง นายศักดิ์ชาย งอกงาม
อีเมล์. reporter@efinancethai.com